Bitcoin คืออะไร (บิตคอยน์)
เป็นเงินตราในรูปแบบดิจิทัลรูปแบบหนึ่ง ที่มีระบบการชำระเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ Bitcoin ได้รับการพัฒนาโดยโปรแกรมเมอร์ ที่ใช้นามแฝงว่า “ซาโตชิ นากาโมโตะ”
เริ่มใช้งานครั้งแรกในปี ค.ศ. 2009 โดยเป็นเงินตราที่เรียกว่า “Cryptocurrency” ซึ่งพัฒนาด้วยเทคโนโลยี Blockchain ในการเข้ารหัสและควบคุมการสร้างและโอนเงิน ซึ่งเป็นระบบที่ไม่มีศูนย์กลาง ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ ถูกต้องตามกฎหมายจาก ก.ล.ต. ของประเทศไทยครับ
นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีมาก (มีระบบล็อคอิน 2 ชั้น)
และมีตลาดสำหรับซื้อขายเหรียญ bitcoin สำหรับนักเกร็งกำไรอีกด้วย
และมีตลาดสำหรับซื้อขายเหรียญ bitcoin สำหรับนักเกร็งกำไรอีกด้วย
วิธีการหาเหรียญ Bitcoin หลักๆมีอยู่ 4 วิธีดังนี้
1. สายฟรี
ถ้าเราไม่มีกำลังทรัพย์อะไรมากมาย พูดง่ายๆว่าสายฟรี วิธีที่จะหา bitcoin ได้ก็คือหาจากเว็ปที่แจก bitcoin ฟรีที่เชื่อถือได้ครับ เว็ปที่มันแจกจริงๆ ถ้าเราพยายามเข้าไปเก็บ bitcoin ทุกชั่วโมง เว็ปที่ลองแล้วได้จริงๆก็คือ เว็บ freebitco.in
2. ซื้อ Bitcoin ด้วยเงินบาท ในเว็บไทยดังนี้ (คลิกเลือกที่ ลิ้งค์ สีแดง ได้เลย)
bitkub , Zipmex , Z.com , bitazza , Satang , kulap หรือ th.upbit.com เราสามารถฝากเป็นเงินบาทเข้าไปในบัญชี แล้วทำการซื้อเหรียญ Bitcoin มาเก็บไว้ได้จากคนที่ตั้งออเดอร์ขายเหรียญ แน่นอนว่าเราก็สามารถตั้งขายเหรียญ Bitcoin เป็นเงินบาท ให้กับใครก็ได้ในเว็บนี้ แล้วกดถอนเงินบาทออกมาเป็นเงินจริงๆเข้าบัญชีธนาคารในไทยได้ตลอดเวลาเช่นกันครับ ถ้าใครเคยเล่นหุ้นจะเข้าใจดี แต่สำหรับคนทั่วไปก็ไม่ยากครับลองดู ในแต่ละเว็บจะมีฝ่ายบริการลูกค้าคอยให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ติดปัญหาอยู่แล้ว
bitkub , Zipmex , Z.com , bitazza , Satang , kulap หรือ th.upbit.com เราสามารถฝากเป็นเงินบาทเข้าไปในบัญชี แล้วทำการซื้อเหรียญ Bitcoin มาเก็บไว้ได้จากคนที่ตั้งออเดอร์ขายเหรียญ แน่นอนว่าเราก็สามารถตั้งขายเหรียญ Bitcoin เป็นเงินบาท ให้กับใครก็ได้ในเว็บนี้ แล้วกดถอนเงินบาทออกมาเป็นเงินจริงๆเข้าบัญชีธนาคารในไทยได้ตลอดเวลาเช่นกันครับ ถ้าใครเคยเล่นหุ้นจะเข้าใจดี แต่สำหรับคนทั่วไปก็ไม่ยากครับลองดู ในแต่ละเว็บจะมีฝ่ายบริการลูกค้าคอยให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ติดปัญหาอยู่แล้ว
สำหรับเว็บซื้อขาย Bitcoin ต่างประเทศที่ได้รับความนิยมทั่วโลกในขณะนี้คือ binance เพราะมีเหรียญสกุลต่างๆให้ซื้อขายหลากหลายกว่าในตลาดบ้านเรา รวมถึงมีปริมาณการซื้อขายต่อวันที่มากกว่าตลาดในไทยถึง 100 เท่า จึงเหมาะสำหรับสายเทรดทุกคนที่ต้องการสัมผัสตลาดซื้อขายเหรียญในระดับสากลครับ ที่สำคัญ Binance ยังมี App บนโทรศัพท์มือถือให้ดาวโหลดมาใช้งานสำหรับซื้อขายเหรียญได้อีกด้วย ช่วยให้เราสามารถซื้อขายเหรียญได้ทุกที่ทุกเวลา เรียกได้ว่าเป็นเว็บเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 1 ของโลกคริปโตเลยทีเดียว
3. ขุดด้วย Hardware เช่น CPU หรือ GPU(การ์ดจอ) และ HDD
ใครมีคอมพิวเตอร์ที่บ้านก็สามารถขุดเหรียญ Bitcoin ได้เองเหมือนกัน ยิ่งการ์ดจอแรงๆนี้ ขุดกันได้วันละหลักร้อยถึงหลักพันต่อวันกันเลยทีเดียว วิธีนี้มีข้อเสียหลักๆคือเปลืองไฟครับ และเนื่องจากปัจจุบันค่าความยากในการขุดค่อนข้างสูง ความนิยมในการขุดสำหรับรายย่อยจึงลดลงมาก
4. ขุดเหรียญ Bitcoin ผ่าน Cloud Mining ที่เชื่อถือได้
การซื้อ Hardware มาในราคาหลายหมื่นถึงหลายแสนบาท แม้เราจะขุดเหรียญได้ด้วยตัวเอง แต่ต้องแลกมากับความเสี่ยงในการดูแลรักษา Hardware นั้นๆ เช่น อุณหภูมิความร้อน , ค่าไฟ , อุปกรณ์ป้องกันไฟกระชาก , เสียงที่ค่อนข้างดัง บลาๆๆ สุดท้ายผู้เขียนจึงลองศึกษา Cloud Mining จนมั่นใจว่าวิธีการหาเหรียญ Bitcoin ด้วยวิธีการนี้ดีกว่าลงทุนซื้อเครื่องมาขุดเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่า Cloud Mining คืออะไร จริงๆแล้ว Cloud Mining คือบริการให้เช่าแรงขุดของ Hardware ที่ใช้สำหรับขุดเหรียญดิจิทัลต่างๆครับ เราแค่จ่ายเงินลงทุนโดยแลกกับแรงขุดเหรียญที่ได้กลับมา โดยแรงขุดนี้จะขุดเหรียญให้เราทุกวัน โดยที่เราไม่ต้องกังวลกับ ค่าไฟ ความร้อน หรือเสียงของอุปกรณ์ขุด
ใครอยากขอคำปรึกษา หรือพูดคุย ช่องทาง
No comments:
Post a Comment